เที่ยว 9 จังหวัด ตามรอยรัชกาลที่ 9 #ตอนที่ 1

On Top

“ไม่มีที่ใดในผืนแผ่นดินไทย
ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จไปไม่ถึง”

          ตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรทั่วทั้งประเทศ และทรงทอดพระเนตรเห็นถึงความยากลำบากของราษฎรในทุกที่ทุกภูมิภาค จึงทรงทุ่มเทพระวรกาย คิดค้นโครงการพระราชดำริ โครงการหลวง กว่า 4,000 โครงการ ขึ้นมาเพื่อพัฒนาชุมชนนั้นๆ เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เหมือนดั่งเนื้อเพลงที่ว่า … “หยดน้ำหยาดเหงื่อพระองค์หยดลงที่ไหน ทุกข์ร้อนจะพลันสลาย ทุกข์ภัยจะไม่อาจแผ้วพาน” สิ่งที่พ่อสร้างไว้ได้ถูกพัฒนาต่อยอดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ต่างๆในทุกวันนี้

 


 

เราจะพาทุกๆท่านไปท่องเที่ยวตามรอยเท้าพ่อ เท้าที่ย่างก้าวไปเพื่อพลิกผืนดินที่แห้งแล้งให้งดงาม

 

 เส้นทางแรก

• ○ วังสวนจิตรลดา ○ •

             วังสวนจิตรลดา (พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน) วังที่ไม่เหมือนวังใดในโลก เพราะภายในวังที่ควรจะมีเขาวงกต ปราสาททอง เหมือนในนิทาน กลับมีโรงสีข้าว โรงงานผลิตนม บ่อเลี้ยงปลานิล และโครงการอื่นๆ ที่เราไม่คิดว่าจะพบในรั้วในวัง

 

           แล้ว…ทำไมพ่อต้องสร้างฟาร์ม สร้างสวนในวัง ?

             เพราะ พ่อต้องการสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ศึกษา ทำการวิจัยเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาต่างๆในด้านการเกษตรให้กับเกษตรกร และที่นี่ก็ใกล้ชิดพ่อ พ่อสามารถติดตามผลของงานวิจัยได้ตลอดเวลา เพื่อความรวดเร็วในการช่วยเหลือพวกเรา และพ่อก็ใจดีเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย (ต้องทำจดหมายขอเข้าชมล่วงหน้าประมาณ 1-3 เดือน)

 

 

       พ่อได้แบ่งการดำเนินงานของที่นี่เป็น 2 รูปแบบ

  1. แบบไม่ใช่ธุรกิจ : ก็จะเป็นพวกงานทดลอง ค้นคว้าต่างๆ ที่หน่วยงานทางภาครัฐและเอกชนเข้ามาสนับสนุน
  2. แบบกึ่งธุรกิจ : จะเป็นการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร และนำไปจำหน่ายให้ผู้บริโภคได้บริโภคของที่มีคุณภาพโดยไม่หวังผลกำไร

 

        งานทดลองอย่างแรกที่พ่อทดลองในวัง คือ แปลงนาข้าวทดลอง

 

 

        เพราะอาชีพการทำเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของคนไทย และสิ่งที่พ่อพบปัญหามากที่สุด จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการทำนา พ่อจึงได้ทำแปลงนาข้าวทดลอง ทั้งในรูปแบบข้าวไร่ และนาสวน กว่า 40 สายพันธุ์  และวิธีปลูกอีกหลายรูปแบบแล้วแต่ผลลัพธ์ที่ชาวนาอยากจะได้ ข้าวที่ปลูกภายในวังจะนำไปใช้ในพีธีแรกนาขวัญ และเป็นพันธุ์ข้าวแจกจ่ายให้กับเกษตรกร

 

 

          ภายในวังก็จะมีนิทรรศการห้องข้าวที่รวบรวมข้อมูลพันธุ์ข้าวทดลองให้ทุกๆท่านได้ศึกษา ชมการทำนาที่พ่อลงมือทำเองทุกขั้นตอน ชมรถแทร็กเตอร์คันแรกในประเทศไทย และชมเคียวเกี่ยวข้าวที่พ่อใช้เกี่ยวในพีธีแรกนาขวัญอีกด้วย


     โรงสีข้าวตัวอย่าง

  

         โรงสีข้าวที่นี้ไม่ได้มีไว้สีข้าวในนาทดลอง แต่จะเป็นการรับซื้อข้าวจากเกษตรกรที่เป็นสหกรณ์ เพื่อช่วยพยุงราคาข้าวไว้ไม่ให้ชาวนาถูกเอารัดเอาเปรียบ

 

        โรงบดแกลบ

 

 

        เมื่อเราสีข้าวแล้ว ก็จะเหลือเเกลบ วัสดุเหลือใช้จากผลผลิต พ่อจะไม่ทิ้งแต่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการสร้างมูลค่า ทำเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งไร้กลิ่นไร้ควัน และเมื่อกลั่นก็จะได้เป็นน้ำส้มควันแกลบ ที่สามารถนำไปเป็นปุ๋ยให้กับพืชผลต่อไปได้ จะเห็นได้ว่าทุกส่วนของผลผลิต พ่อสามารถแปรรูปให้เกิดคุณค่าได้หมดเลยเป็นที่สุดของพระมหาอัจฉริยภาพโดยแท้

 

        โรงโคนมสวนจิตรลดา

 

 

        เมื่อปี พ.ศ. 2503 พ่อได้เสด็จเยือนยุโรปและทรงศึกษารูปแบบการเลี้ยงวัวนม จึงเกิด โรงเลี้ยงโคนม ขึ้นในปี พ.ศ. 2505 และเป็นผู้ริเริ่มการเลี้ยงวัวนมในประเทศไทย วัวที่เลี้ยงทั้งหมดเป็นวัวเพศเมียเพื่อเอาไว้รีดน้ำนมโดยเฉพาะ น้ำนมดิบที่ได้ก็จะนำไปสู่กรรมวิธีผลิตเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ นมยูเอชที นมผง เนย โยเกิร์ต และที่สำคัญ นมผงอัดเม็ด ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง ซึ่งเราก็จะได้เห็นถึงขั้นตอนการทำแบบใกล้ๆ เลยทีเดียว

        นอกจากนี้ที่นี่ยังนำเอาผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูป ไม่ว่าจะเป็น โรงน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรส์ โรงน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง โรงผลไม้อบแห้ง และงานทดลองต่างๆอีกมากมาย

 

 

 

        งานทดลองผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง ไบโอดีเซล โครงการแก๊สโซฮอล์

        รู้หรือไม่ว่า พ่อของเราเป็นผู้ริเริ่มการนำวัสดุจากการเกษตรมาใช้เป็นพลังงานทดแทน เมื่อพ่อเห็นถึงปัญหาภาวะอ้อยราคาตกต่ำ จึงได้มีรับสั่งให้รับซื้ออ้อยมาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องพลังงานทดแทน เพราะประเทศเราไม่ได้เป็นเมืองน้ำมัน น้ำมันจึงเป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป พ่อเกรงว่าในอนาคตประเทศไทยอาจจะขาดแคลนน้ำมัน เลยได้ริเริ่มนำอ้อยมาศึกษาการกลั่นออกมาเป็นแอลกอฮอล์ และยังสามารถนำส่วนอื่นๆมาผลิตเป็นสบู่ แชมพู น้ำหอมได้อีกด้วย

 

 

        บ่อเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลานิล

        พ่อเพาะเลี้ยงปลาเหล่านี้ด้วยพระองค์เองด้วยจำนวนเริ่มต้น 50 ตัว ตั้งพระทัยให้ประชาชนสามารถเลี้ยงปลานิลไว้เป็นอาชีพ ซึ่งปลานิลนี้เป็นแหล่งโปรตีนราคาถูกที่ขายได้ตามท้องตลาดทั่วไป แต่รู้ไหมว่า…พ่อเราไม่ทานปลานิลนะคะ 

 

 

        ข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากโครงการส่วนพระองค์ฯ เท่านั้น ยังมีจุดน่าสนใจอีกมากมายภายในวังสวนจิตรลดา อย่างระบบผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลม บ้านพลังงานแสงอาทิตย์ โรงกระดาษสา พิพิธภัณฑ์โรงช้างต้น โรงหล่อเทียนหลวงและอีกมากมาย เห็นไหมคะว่า วังของพ่อ ไม่เหมือนวังไหนบนโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อทำ ก็เพื่อพวกเราคนไทยทุกคน

 

ที่ตั้ง : อยู่ในพระราชวังดุสิต แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กทม.
โทร : 0-2282-8200

 

.

.

.

 

เส้นทางที่ 2

•○ แหลมผักเบี้ย ○•

เปลี่ยนบรรยากาศจากฟาร์มมาเป็นน้ำป่าชายเลนกัน ณ โครงการศึกษาวิจัย และพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย เดินทางแค่ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพก็ได้พบกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวตลอดเส้นทาง จนได้ชื่อว่าเป็น เส้นทางหวาน เค็ม โคลน และยังเป็น scenic route เส้นทางปั่นจักรยานอีกด้วย

 

เส้นทาง หวาน คงได้ยินกันมาบ่อยว่า ถ้าปากหวาน ก็หวานเหมือนน้ำตาลเมืองเพชร น้ำตาลสดหอมอร่อยก็ต้องเพชรบุรี เพชรบุรีมีต้นตาลมากที่สุดในประเทศทไทยและมีศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาตาลโตนด หรือ สวนตาลลุงถนอม อ.บ้านลาด

 

 

            ลุงถนอมจะคอยให้ความรู้เรื่องความเป็นมาของต้นตาล กว่าจะได้มาทำน้ำตาลสด ให้หอมอร่อยและมีเอกลักษณ์ ซึ่งใครที่ไปแล้วอยากจะลองปีน เค้าก็ให้ปีน เสียว และเหนื่อยมากค่ะ คิดดูสิคะ กว่าเค้าจะได้น้ำตาลสดแท้ๆ มาให้เรากินนั้นต้องทำแบบนี้ทั้งดือน ทั้งปี

 

เสร็จแล้วก็ได้ชิมน้ำตาลสดหอมเย็นชื่นใจ พร้อมขนมตาลที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ฟินที่สุด

 

 

           เส้นทาง เค็ม จากดงต้นตาลจะมาแหลมผักเบี้ยจะต้องผ่านนาเกลือ อำเภอบ้านแหลม ถ้าไปหน้าร้อนก็จะเจอกองเกลือสีขาวเรียงรายเต็มสองข้างทาง แวะถ่ายรูป ได้ภาพสวยๆกลับบ้านกันด้วย ซึ่งระหว่างทางก็มีแหล่งท่องเที่ยวภูมิปัญญาไทยอย่าง กังหันทอง บ้านเรือนไทยท่ามกลางนาเกลือ

 

 

          จุดเด่นของที่นี่คือ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้เรื่องเกลือ มีบริการนวดแผนไทยซึ่งที่นี่นวดดีมากค่ะ หนัก ตรงจุด ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางได้ดีสุดๆ บรรยากาศรอบๆเป็นนาเกลือ ลมพัดเย็นสบาย นวดทีไรหลับทุกที แหะๆ

 

 

ก่อนกลับก็ขัดผิวด้วยดอกเกลือสปา ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เค้าใช้ก็ทำจากเกลือและดอกเกลือภูมิปัญญาชาวบ้านพัฒนาจนเป็นสินค้าโอทอปประจำตำบล
ราคาไม่แพง คุ้มค่าสุดๆ ลองแล้วจะติดใจ

 

 

อ่อที่กังหันทองเค้ามีบริการแช่เท้าด้วยเกลือแช่เท้ากับน้ำอุ่นๆฟรีด้วยนะ เป็นบริการจากทางร้าน ให้ลูกค้าที่มาเหนื่อยได้ประทับใจ มาถึงปึ้ปขึ้นไปนั่งบนบ้าน พนักงานก็จะหิ้วกะละมังพร้อมน้ำอุ่นๆ มาโรยด้วยดอกเกลือ แช่สัก 10 นาที แล้วค่อยนวดผ่อนคลาย

เส้นทาง โคลน นี่เลย ไฮไลท์ของเรา เดินตามรอยพ่อเข้ามา ณ โครงการแหลมผักเบี้ย

 

 

ป่าชายเลน ที่พ่อได้มีพระราชดำริ ให้จัดตั้งโครงการขึ้น เพื่อบำบัดน้ำเสีย และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับขยะมูลฝอย น้ำเสีย และการฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนในจังหวัดเพชรบุรี เรารู้สึกดีใจที่บ้านเราได้เกิดมาในแผ่นดินไทย ใต้ร่มพระบารมีของท่านที่ทรงห่วงใยประชาชนทุกที่จริงๆ มาดูกันว่าที่นี่มีอะไรให้เราได้ศึกษาบ้าง หน้าทางเข้า เค้าจะมีแผนที่เเจกให้เราเพื่อไม่ให้หลงทาง และเราก็สามารถขับรถชมวิวได้ตามต้องการ

 

 

แล้วทำไมที่นี่ถึงชื่อแหลมผักเบี้ย ? ก็เพราะว่าสองข้างทางของบ่อบำบัดน้ำจะมีผักเบี้ยทะเลขึ้นมาเยอะมาก จึงได้ชื่อว่า แหลมผักเบี้ย ภายในแหลมผักเบี้ย มีบ่อบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ถึง 4 บ่อ

 

 

แต่ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือเส้นทางศึกษาธรรมชาติระบบนิเวศป่าชายเลน ที่มีระยะทางประมาน 850 เมตร ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นโกงกาง และต้นแสม แถมด้วยผักเบี้ยทะเลของจริงที่ขึ้นอยู่เต็มบริเวณโดยรอบป่าชายเลนให้เราเดินชมกันเพลิน ๆ (ปล. ใครที่จะเข้าเส้นทางนี้ แนะนำให้เข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เพราะทางมันยาวแล้วก็ไม่มีห้องน้ำนะคะ)

 

 

เมื่อเดินมาจนสุดทางจะพบสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวออกไปไกลท่ามกลางแม่น้ำ สูดกลิ่นโคลน กลิ่นอายทะเลให้เต็มปอด นั่งพักกาย พักใจให้หายเหนื่อย

 

         แม้ว่าที่นี่จะไม่มีอะไรให้ตื่นตา ตื่นใจนัก แต่โครงการนี้ก็มีประโยช์ต่อชุมชนจังหวัดเพชรบุรีอย่างมาก เป็นการบำบัดแม่น้ำเพชรบุรีให้มีคุณภาพน้ำดีขึ้น ระบบนิเวศป่าชายเลนมีความสมบูรณ์เพิ่มขึ้น และน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วยังสามารถนำมาใช้ปลูกพืชเกษตรได้ มาชมผลงานความสำเร็จอีกหนึ่งโครงการของพ่อ อย่างน้อยที่นี่ ก็ทำให้ใจเราสงบจากความวุ่นวายในกรุงเทพได้ชั่วครู่หนึ่ง

 

ที่ตั้ง : บ้านพะเนิน ตำบลบ้านแหลม อำเภอ บ้านแหลม เพชรบุรี 76110

โทร : 032-441-265

.

.

.

เส้นทางที่ 3

•○ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค นมกล่องแรกของเมืองไทย ○•

ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค หรือองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)  ฟาร์มตัวอย่างและศูนย์กลางการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมแห่งแรกในประเทศ อาชีพพระราชทานจากพ่อ

 

 

นมไทยเดน-มาร์คเริ่มต้นจากการที่พ่อเสด็จเยือนประเทศเดนมาร์คทรงสนพระราชหฤทัยในฟาร์มโคนมอย่างมาก คนไทยจะได้ดื่มนมที่ดีมีปรโยชน์ เกษตกรมีอาชีพมั่นคง จึงเกิดความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเดนมาร์คอย่างเต็มที่

 

ขอบคุณรูปภาพจาก Manager Online

 

ที่นี่เลี้ยงโคนมแบบธรรมชาติ ให้เราได้ลองป้อนนม และรีดนมวัวจากเต้า น้ำนมดิบที่ได้จากฟาร์มนี้และฟาร์มโคนมต่างๆ จะถูกส่งไปยังโรงงานทั้ง 5 แห่งของ อ.ส.ค. เพื่อแปรรูปเป็นนมกล่อง นมถุง โยเกิร์ต และไอศกรีม ที่มีคุณประโยชน์จากนมให้เราได้กิน

พื้นที่บางส่วนถูกจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้พวกเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำฟาร์ม เรียนรู้การทำปุ๋ยนมสด ชมพิพิธภัณฑ์สองกษัตริย์ สนุกสนานกับกิจกรรมผจญภัย ขับรถเอทีวี หรือ ขี่จักรยานเสือภูเขา เพลิดเพลินกับการแสดงขี้ม้าต่างๆ

 

หากใครอยากจะสัมผัสบรรยากาศตอนกลางคืน ท่องโลกคาวบอยไนท์ ชมการแสดงยิงธนู ยิงปืน ปีนหน้าผาจำลอง เช่าเต้นท์แคมป์ปิ้งดูดาวสุดโรแมนติกพร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าได้ในราคาไม่แพงด้วยค่ะ

 

ขอบคุณภาพจาก Travel MThai

 

รอบการเข้า ชมฟาร์ม

วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 น. / 14.00 น. / 16.00 น.

วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.00 น. / 11.00 น. / 14.00 น. และ 16.00 น.

จำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 80 คน/รอบ มาเป็นหมู่คณะจัดรอบเข้าชมให้

อัตราค่าเข้าชม เด็ก 50 บาท นักศึกษา 80 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท

 

อัตราค่าบริการของกิจกรรมต่าง ๆ

– แคมป์ปิ้ง ค่าเช่าเต้นท์ 600-1,000 บาท/คน/คืน

– เช่าพักแรม 2 วัน 1 คืน 2,000 บาท/คืน (กลุ่มละ 50 คนขึ้นไป)

– ขี่รถ ATV ค่าบริการ 145-800 บาท/รอบ คิดตามระยะทาง

– จักรยานเสือภูเขา ค่าบริการ 100 บาท/ชั่วโมง มี 2 รอบ 8.00-9.00 น. และ 15.00-18.00 น.

– ขี่ม้า 80-800 บาท/รอบ ขึ้นอยู่กับประเภทและระยะทาง

 

ที่ตั้ง : ถนนมิตรภาพ อำเภอมวกเหล็ก จ.สระบุรี

โทร : 0 3634 1013 / www.thaidanskmilk.com

 

อ่านบล็อก เที่ยว 9 จังหวัดตามรอยรัชกาลที่ 9 ตอนที่ 2 คลิก

อ่านบล็อก เที่ยว 9 จังหวัดตามรอยรัชกาลที่ 9 ตอนที่ 3 คลิก

ติดตามเที่ยวตามรอยพ่อตอนต่อไปในเร็วๆนี้ ขอบคุณค่ะ[wp-svg-icons icon=”home-2″ wrap=”i”]



“ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ล้นเกล้าชาวไทยมีพระองค์ท่าน” ไม่เคยลืมว่าประเทศไทยมีวันนี้ได้เพราะใคร

SBA น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ จะเกิดอีกกี่ชาติ ก็จะขอเกิดใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ทุกชาติไป…

Social Media

Get The Latest Updates

Subscribe To Our Weekly Newsletter

No spam, notifications only about new products, updates.

Categories

On Trend

Most Popular Stories

ดารุมะ วัดคัตสึโอจิ!

            วัดคัตสึโอจิ หรือวัดที่เราเรียกกันว่า วัดดารุมะ เพราะมีดารุมะเยอะมากกกก จริง ๆ แล้วมีประวัติยาวนานถึง 1300 ปี ถูกสร้างขึ้นในยุคนาระ ปี ค.ศ.727             เป็นวัดที่เหล่านักรบในอดีตมักมาขอพรกัน ให้ประสบชัยชนะในการรบ

สอนวิธีวางแผนเส้นทางเที่ยวญี่ปุ่นด้วย Hyperdia ง่ายม๊ากกกกกก…

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เดินทางด้วยรถไฟเป็นหลักครับ หากคุณจะไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองแล้วละก็ รถไฟคือสิ่งจำเป็นที่คุณต้องใช้และเรียนรู้

ตามรอยสามก๊ก เสฉวน-ฉงชิ่ง : แช่ออนเซ็น เที่ยวเมืองโบราณ ชมธรรมชาติสุดอลังการเว่อร์วัง กับ SBA Travel

การท่องเที่ยวประเทศจีนด้วยการใช้บริการบริษัททัวร์เป็นทางเลือกที่ดีมาก สำหรับผู้ที่ไม่รู้ภาษาจีน เพราะแม้กระทั่งการสั่งอาหารการกินยังยากเลย ฉะนั้นไปกับทัวร์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

7 บ่อ ออนเซ็น แช่แล้วฟิน… แถมเสริมสิริมงคล… ต้องคิโนซากิ ออนเซ็น ไม่ไกลจากโอซาก้า

คิโนซากิออนเซ็น เป็นเมืองขนาดเล็กเปรียบเสมือนหมู่บ้านที่ยังคงรักษาสภาพบ้านเรือนและเป็นอยู่ในแบบโบราณมาจนถึงทุกวันนี้